วันจันทร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

หลักการในการ การว่ายน้ำอย่างมืออาชีพ

สังคมไทยรับหลักการศึกษาจากตะวันตกมาทั้งดุ้น จึงทำให้คน
ไทยมีพฤติกรรมหัวมกุฎท้ายมังกร เรียนเรื่องรูป (ความรู้สากล) ก็
เข้าใจไม่ซึ้ง เรียนเรื่องจิตก็นำจิตวิทยาของฝรั่งซึ่งเป็นรูปมาปะปน
สับสนกับจิตในพุทธศาสตร์ ทั้งๆ ที่ศาสตร์ทั้งสองมีหลักความเชื่อ
สูงสุดต่างกัน
“รู้’’ และสระน้ำเด็กเล็ก “คิด” เป็นโครงสร้างหลักของจิต ที่ฝรั่งยังเข้าไม่ถึง
คนไทยแทบทั้งนั้นจึงปล่อยผ่าน เพราะบัดนี้เราคุ้นเคยกับการเห็นว่า
จากฝรั่งดีกว่าจากไทย ไม่ว่าเรื่องอะไรเลยเหมารวมเข้าด้วยกันหมด
พยายามจะนำความรู้เรื่องจิตในพุทธศาสตร์ไปต่อโยงกับความรู้
วิทยาศาสตร์ของสากล
ข้าพเจ้าคิดว่า เรื่องความรู้สากลนั้นเหมาะในการอุปมา เพื่อ
เพิ่มพนศรัทธาให้เข้าใจจิตตนเอง และเข้าใจหลักการของพทธธรรมฤนบุณกุคลจีงทบทวี
แต่ถ้าจะใหิโด้ผลสมจริงสำเร็จต้องปฏิบัติด้วยตนเอง แค'จดจำอย่าง
ความรู้สากลอย่างเดียว จะมิไต้ผลดี
ผู้ที่ฑ่องสายธารแห่งธรรมผ่านการทำบุญตามบัดกรรมฐาน
ต่างๆ ห่วงยางคอเด็กมักจะไต้ยินพระท่านสอนให้ “รู้” และบ่อยครั้งจะพบว่าสาย
กรรมฐานบางสาย “ห้ามคิด”
นักปราชญ็ไทยควรต้องทำความเข้าใจให้สังคมได้เชื่อตรงกันว่า
คำใดหมายถึงสภาวะใด
“รู้” นั้นตรงกับ “ล'ติ”ในภาษาบาลี แต่ “คิด” ตรงกับ “จิตต-
ส้งขาร” มันมีสภาวะที่ซ้อนกัน แต่ก็เหลื่อมกันอยู่ แม่แต่ “สติ” ก็ให้
คำจำกัดความไปคนละทิศคนละทาง เมื่อยังไม่ยอมให้พุทธธรรมเปีน
วิชาหลักที่ทุกคนต้องเรียนรู้ ต่างคนต่างไปเรียนจากคนละสำนัก เลย
ทำให้ความสับสนยังเพิ่มทวีคูณ ผู้รู้หลายสำนักท่านบัญญัติศัพท์เอา
ตามสระน้ำสูบลมขนาดใหญ่ความเข้าใจของตน ตรงนี้น่าจะทำตามค่านิยมสากล คือ แต่งตั้ง
คณะมาบัญญัติสภาวธรรมให้เด็ดขาดลงไป 
“การรู้เรื่อง” นั้นแตกต่างจาก “การคิดเรื่อง” ถ้าเมื่อไร
กำหนดสภาวะทั้งสองนี้ได้ ก็จะมองเห็นว่า “รู้” และ “คิด” มี
สภาวะต่างกัน
โดยหลักการและจากการพิสูจน์ด้วยตนเอง “รู้’’ เป็นการ
ระลึกตรงสภาวะของจิต รู้จะเกิดได้เองตามธรรมชาติ เซ่น ความเย็น
ร้อนอ่อนแข็ง แต่ผู้คนที่ขาดการแกฝนจะทิ้ง “รู้’’ ตามธรรมชาติ เมื่อ
แกฝนแล้วจึงจะสามารถรู้ได้ตรงตามสภาวธรรม “รู้’’ ที่ผ่านการ
แกฝนเรียกว่า สระน้ำเป่าลมกลางแจ้ง“สติ, ระลึกรู้”
“คิด” เป็นกระบวนการทางจิตที่ซับซ้อนกว่า “รู้’’ โดยหลัก
การต้องรู้ก่อนคิด เซ่น ตากระทบรูป จักษุวิญญาณทำหน้าที่ เกิด “รู้’’
ที่แตกต่าง การ “รู้’’ ที,แตกต่างเพราะสติมีกำลังแตกต่าง บางคน
“รู้ว่าอะไร” (สัญญา) บางคนรู้ว่าอะไรยังรวดเร็วที่จะนำคิดติดมาด้วย
“รู้ว่าเป็นอะไร” กลไกทางจิตจะรวดเร็วมาก ถ้าไม่มีประสบการณ์
ทางจิตจนชำนาญ จะแยกสองสภาวธรรมนี้ออกจากกันไม่ได้

สระน้ำสำเร็จรูป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น